บอลโลก 2010

วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ABC




A B C D E F G H I J K L M N O P Q R S T U V W X Y Z

แม่ไก่ใจดี




ไก่โอ๊ยแม่ไก่ ออกไข่วันล่ะฟอง เอ๊กอี๊เอก เอ๊กอี๊เอก เอ๊กอี๊เอกอี๊เอก


เธอตื้นเช้าตลอด เธอตอนรับวันใหม่ เธอคือคุณแม่ไก่ น้ำใจช่างแสนงาม

นิทาน ซินเดอเรลล่า





ซินเดอเรลล่าเดิมมีชื่อว่า เอลล่า (Ella) เป็นบุตรสาวของเศรษฐีผู้มั่งมี มารดาของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเล็ก เป็นเหตุให้บิดาของเอลล่าจำใจแต่งงานใหม่กับมาดามผู้หนึ่งซึ่งเป็นหม้ายและมีลูกสาวติดมาสองคนเพราะอยากให้เอลล่ามีแม่ ไม่นานนักหลังจากนั้น เศรษฐีผู้เป็นบิดาก็เสียชีวิต ทำให้ธาตุแท้ของแม่เลี้ยงปรากฏขึ้น นางกับลูกสาวใช้งานเอลล่าราวกับเป็นสาวใช้ และใช้จ่ายทรัพย์ที่เป็นของเอลล่าอย่างฟุ่มเฟือย ที่ร้ายกว่านั้น ทั้งสามยังเปลี่ยนชื่อของเอลล่า เป็น ซินเดอเรลล่า ที่แปลว่า สาวน้อยในเถ้าถ่าน เพราะพวกนางใช้งานเอลล่าจนเสื้อผ้าขาดปุปะมอมแมมไปทั้งตัวนั่นเอง
ซินเดอเรลล่ายอมทนลำบากทำงานเรื่อยมาจนกระทั่งวันหนึ่ง มีจดหมายเรียนเชิญหญิงสาวทั่วอาณาจักรให้มาที่พระราชวังเพื่อร่วมงานเต้นรำ แต่ความหมายที่แท้จริงก็คือ พระราชา ต้องการหาคู่ครองให้กับเจ้าชายซึ่งเป็นพระโอรสองค์เดียว จึงใช้งานเต้นรำบังหน้า เมื่อรู้ข่าว ลูกสาวทั้งสองต่างพากันดีใจที่บางทีตนอาจมีโอกาสได้เต้นรำและได้แต่งงานกับเจ้าชายก็เป็นไปได้ เช่นกันกับซินเดอเรลล่า เพราะเธอใฝ่ฝันมาตลอดเวลาว่าจะได้เต้นรำในฟลอร์ที่งดงามและเป็นอิสระจากงานบ้านอันล้นมือเหล่านี้ แต่แน่นอน เมื่อเด็กสาวขอไป แม่เลี้ยงใจร้ายจึงกลั่นแกล้งต่างๆ นานาจนซินเดอเรลล่าไม่มีชุดใส่ไปงานเต้นรำ
ซินเดอเรลล่าเสียใจมาก จึงหนีไปร้องไห้อยู่คนเดียว ทันใดนั้นนางฟ้าแม่ทูนหัวของซินเดอเรลล่าก็ปรากฏตัวขึ้นและบันดาลชุดที่สวยงามที่สุดให้ซินเดอเรลลา พร้อมกับบอกให้เด็กสาวไปงานเต้นรำ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องกลับมาก่อนเที่ยงคืน ไม่เช่นนั้นเวทมนตร์จะเสื่อม
ซินเดอเรลล่าได้ทำตามความฝัน แต่ที่ยิ่งกว่านั้นคือ คู่เต้นรำที่เธอก็ไม่ทราบว่าเป็นใครนั้นคือเจ้าชายนั่นเอง ทั้งสองตกหลุมรักกันทั้งที่ยังไม่รู้ชื่อเสียงเรียงนามของอีกฝ่าย แต่เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน ซินเดอเรลล่าก็รีบหนีไปโดยลืมรองเท้าแก้วเอาไว้ เจ้าชายเก็บรองเท้าไว้ได้จึงประกาศว่าจะทรงแต่งงานกับหญิงสาวที่สวมรองเท้าแก้วนี้ได้เท่านั้น
เสนาบดีได้นำรองเท้าแก้วไปตามบ้านต่างๆ เพื่อให้หญิงสาวทั่วอาณาจักรได้ลอง จนมาถึงบ้านแม่เลี้ยง เมื่อลูกสาวทั้งสองลองครบแล้ว นางก็โกหกว่าไม่มีหญิงสาวในบ้านอีก พร้อมทำลายรองเท้าแก้วจนแตกละเอียด ทุกคนต่างหมดหวังว่าจะไม่สามารถหาหญิงปริศนาของเจ้าชายพบ แต่สุดท้าย ซินเดอเรลล่าก็หยิบรองเท้าแก้วอีกข้างที่เก็บไว้ขึ้นมาและสวมให้กับเหล่าเสนาได้ดู ทำให้ซินเดอเรลล่าได้แต่งงานกับเจ้าชาย และมีความสุขตราบนานเท่านาน


นิทาน สโนไวท์กับคนแคระทั้ง 7





สโนไวท์กับคนแคระทั้ง 7 สโนไวท์เป็นนิทานอมตะที่เด็กๆส่วนใหญ่ต้องรู้จักกันอยู่แล้ว ด้วยคำพูดของราชินีที่ว่า"กระจกวิเศษ จงบอกข้าเถิดใครงามเลิศในปฐพีนี้...."กระจกวิเศษก็จะตอบว่า"ก็ต้องเป็นเจ้าหญิงสโนไวท์น่ะสิ....."รวมถึงตัวการ์ตูนที่น่ารักนั่นก็คือ คนแคระทั้ง 7 ผู้ที่คอยช่วยเหลือสโนไวท์นั่นเอง
เนื้อเรื่องโดยรวมมีอยู่ว่า สโนไวท์เป็นองค์หญิงที่หน้าตางดงามมาก จนราชินีองค์ใหม่อิจฉา และสั่งให้นายพรานฆ่าเธอซะ แต่นายพรานสงสารจึงยอมปล่อยให้สโนว์ไวท์หนีไป สโนไวท์ไปเจอบ้านหลังหนึ่งและเข้าใจว่าไม่มีคนอยู่จึงอาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้น และเมื่อคนแคระทั้ง 7 กลับมาถึงบ้านเพราะความมีน้ำใจและความใจดีของสโนไวท์ทำให้พวกเขาให้สโนไวท์อยู่ด้วยสโนไวท์ตอบแทนคนแคระทั้ง 7 โดยการทำความสะอาดบ้านและทำอาหารให้ เมื่อราชินีรู้ว่าสโนวไวท์ยังไม่ตายเหมือนที่นายพรานบอกจากกระจกวิเศษของหล่อน จึงปลอมตัวมาฆ่าสโนไวท์หลายหนโดยปลอมเป็นหญิงชราเอาแอปเปิ้ลอาบยาพิษมาให้สโนไวท์กินขณะที่คนแคระทั้ง 7 ไม่อยู่บ้าน สโนไวท์เหมือนกับตายไปแล้วแต่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่เดือนเธอก็ยังคงงดงามเหมือนเดิมคนแคระทั้ง 7 โศกเศร้าเสียใจเป็นอันมากพวกเขานำเธอใส่ในโลงแก้วและรอคอยปาฏิหารย์ จนกระทั่งเจ้าชายองค์หนึ่งมาเห็นและหลงรักและหาทางช่วยเธอจนในที่สุดสโนไวท์ก็ฟื้นจากรอยจุมพิตของเจ้าชายและครองรักกับเจ้าชายอย่างมีความสุข


นิทานลูกหมู สามตัว




ลูกหมู 3 ตัว
กาลครั้งหนึ่ง.......แม่หมูให้ลูกๆ ออกไปเผชิญโลกภายนอกด้วยตัวเองหมู 3 พี่น้องออกเดินทางได้ซักพัก หมูผู้พี่คนโตที่แซ้นนนจะขี้เกียจก็ร่ำลาน้องๆ หยุดสร้างบ้านด้วยฟาง เพราะว่ามันง่าย แล้วก็เร็วที่สุด จะได้พักแต่งหน้าซักที........แล้ววันนั้นเอง หมาป่าก็ย่องเข้ามาหมายจะงาบบบ บ้านที่สร้างด้วยฟาง ไม่อาจต้านแรงได้ หมูหนึ่งวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ไปหาหมูสองผู้น้อง..........ที่สร้างบ้านด้วยไม้
หมูสอง ต้อนรับหมูหนึ่งได้ไม่นาน เหตุการณ์เดิมๆ ก็มาเยือน....เจ้าหมาป่าตามมาอีกจนได้......แม้แต่บ้านไม้ที่คงทนกว่าก็ยังต้านไม่ไหว........สองพี่น้องจึงต้องไปหาหมูสามเป็นที่พึ่งสุดท้ายหมูสามยังสร้างบ้านไม่เสร็จ....บ้านอิฐอลังการที่ใช้เวลาสร้างนานมั่กมายกว่าจะได้พัก ก็ได้ประเดิมด้วยการต้อนรับผู้ลี้ภัยทั้ง 2 พอดิบพอดี แบบปูนที่ฉาบยังไม่แห้ง.............คราวนี้หมาป่าชะล่าใจ ว่าตัวเองแข็งแรง ยังไงก็ได้งาบ 3 หมูแน่นแน่ เลยปล่อยให้ 3 หมูฉลองบ้านใหม่กันไปก่อน.....แต่!! เหตุการณ์พลิกโผ บ้านอิฐสร้างเสร็จ ปูนแห้งแข็งกว่า แม้แต่แรงหมาป่าก็ไม่สามารถทำลายบ้านอิฐได้ ไม่ว่าจะขย่มหลังคา หรือตดใส่ บ้านอิฐก็ไม่หวั่น....จนหมาป่าแก่หมดแรง เผลอหลับไป หมูทั้งสามก็เลยจับหมาป่ามาล่ามโซ่เฝ้าบ้านซะเลย คริๆ

นิทาน กระต่ายกับเต่า




กระต่ายกับเต่า .The Rabbit and The Tortoise .
มีอยู่ในวันหนึ่ง ได้มีเต่าตัวหนึ่งคลานต้วมเตี้ยม ๆ มาตามวิสัยของมัน และที่ตรงอีกทางด้านหนึ่งก็ได้มีกระต่ายตัวหนึ่งวิ่งผ่านมา ทางนั้นเข้าอย่างบังเอิญด้วยความรวดเร็ว "ฮิฮิ! นี่เจ้าเต่า นายชอบ ที่จะเดินต่วมเตี้ยม ๆ อยู่อย่างนี้เสมอ ๆ ทำไมนายถึงได้เดินได้ช้าอย่างนั้นเล่า? " เต่าจึงได้พูดว่า " ถึงแม้ว่าข้าจะเดินได้ช้า แต่ถ้าพูดถึงเรื่องของความอดทนแล้วข้าไม่เคยแพ้ใคร " One day, when a tortoise was walking, a rabbit came running from the other side. "hihi!, the tortoise. You walk slowly also today. Why do you walk slowly like that?" "I walk slowly but, nobody has bigger durability than mine." said the tortoise.
" นายลองมาแข่งขันวิ่งไปที่บนยอดเขานั่นกับข้าดูเอาไหมล่ะ ? " กระต่ายเมื่อได้ยินอย่างนั้น ก็หัวเราะลั่นอย่างดัง "ฮ่ะ ฮ้า น่าสนใจมาก เลยทีเดียว แต่รับรองได้ว่าไม่มีทางที่เจ้าจะ เอาชนะข้าไปได้หรอก มันเปรียบเทียบกันไม่ได้..ว่างั้น" กระต่ายเที่ยวไปเรียกพวกพ้องให้มาชุมนุมกันอย่างทันท่วงที และรวมทั้งให้เป็นกรรมการใน การแข่งขันอีกด้วย " ทุก ๆ คนมาดูเป็นสักขีพยานว่าใครจะเป็นผู้ชนะ ในการแข่งขันวิ่งเร็ว ระหว่างเต่าโง่กับตัวข้า..ฮ่ะฮ่ะ " "You may compete with me to the top of that mountain." the tortoise said. The rabbit said, laughing aloud , "ha ha, It is interesting, Although It is impossible for you to win against me." The rabbit gathered friends promptly . The rabbit had a plan to give a disgrace and laugh at the tortoise. "Everybody, please look at the result of which one run fast in this dull tortoise and me ha ha."
" เตรียมพร้อม !,ไป " พอสิ้นเสียงบอกสัญญาณเริ่มการแข่งขันโดยสุนัขจิ้งจอก แล้วทั้งเต่าและกระต่ายก็เริ่มออกวิ่งไปพร้อม ๆ กัน " ปิย้อง ปิย้อง " กระต่าย กระโดดออกวิ่งนำหน้าไปด้วยความเร็วสูง เผลอแผลบเดียวมันก็วิ่งมาจนถึงที่ตรงจุดกึ่งกลาง ของทางระหว่างภูเขา มันจึงได้หยุดวิ่ง " เจ้าเต่ามันมาถึงไหนแล้วล่ะ ? " พูดแล้วมันก็ได้หันไปดู และก็ได้เห็นว่าเต่านั้นยังคงคลานตามมาอย่างช้า ๆ มองเห็นไกล ๆ "Ready !, Go!" The tortoise and the rabbit started with the shout of a fox, simultaneously . "Pyon!Pyon!Hyew" The rabbit ran at uncanny speed. And, the rabbit had reached to the middle of a mountain in a moment . "Where is the tortoise?" When the rabbit looked back, the tortoise was walking far after .
พวกผู้ชมที่มาชุมนุมกันต่างก็หัวเราะและได้พูดว่า " ท่านเต่า..ท่านเต่า ท่านนี่ ช่างเป็นผู้ที่เดินได้ช้ามาก อาจที่จะพูดได้ว่าเดินได้ช้าที่สุดในโลกเลยก็ได้..ฮ่ะฮ่ะ " แม้ว่าจะได้ยินแบบนั้นแต่เต่าก็ไม่สนใจอะไรยังคงคลานของมันต่อไปด้วยความเงียบสงบอย่าง ตั้งใจเพื่อที่จะให้ไปถึงที่บนยอดเขาโดยไม่คิดที่จะหยุดพักผ่อน ข้างฝ่ายกระต่ายเมื่อรอเท่าไหร่ ๆ ก็ไม่เห็นมีทีท่าว่าเจ้าเต่าจะตามมาทันมันสักที...มันจึงเริ่ม นึกเบื่อกับการรอคอย " เจ้าเต่ามันยังคงคลานอยู่อีกตั้งไกล นอนรอซักงีบหนึ่งคงได้.. ถึงยังไงมันก็ไม่มีทางที่ตามมาทันได้หรอก" มันพูดแล้วก็ล้มตัวลงนอน แล้วหลับไปตรง ที่กลางทางตรงภูเขานั่นเอง The audience laughed at him together, saying "Tortoise, tortoise, you are slowest in the world..ha ha." The tortoise was still walking aiming at the top of a mountain without doing a rest . The rabbit was tired of waiting, "The tortoise is yet far, I will also still do a nap for a while." He fell asleep at the midway of the mountain.
ในขณะที่กระต่ายกำลังหลับอยู่อย่างสนิท เต่าซึ่งได้เดินมาอย่างไม่คิดที่ จะหยุดพักผ่อนนั้น " ถึงแม้ว่าขาของข้าจะสั้นเดินได้ช้าก็จริงแต่เรื่องของ ความอดทนแล้วข้าไม่เคยยอมแพ้ให้ใคร ข้าจะต้องทำดีที่สุดเท่าที่ข้าจะทำได้!" หลังจากที่ในขณะที่เต่าได้เดิน มาจนถึงที่ตรงจุดกึ่งกลางของภูเขา พลันมันก็ได้ ยินเสียงหนึ่งซึ่งเป็นเหมือนกับเสียงกรนจากในที่แห่งหนึ่ง " เสียงกรนที่ไหนนี่... อะฮ้า เจ้ากระต่ายนี่ มันมาแอบนอนหลับอยู่ที่นี่เอง" While the rabbit was sleeping, the tortoise is continuing walking without a rest . "Although I am a dull foot, I don't lose at durability to anybody . I will do my best!" After a while , when the tortoise came in the mountain, he heard a snore from some where. "What?, a snore is heard. Ah!, the rabbit is sleeping there."
ที่ใกล้ ๆ ตรงนั้นกระต่ายกำลังนอนหลับอยู่อย่างสุขสบาย ส่วนเต่านั้น ยังคงที่จะ เดินต่อไป...ทีละก้าว..ทีละก้าวอย่างจริงจังและอดทน และแล้วหลังจากนั้นชั่ว ขณะหนึ่งกระต่ายก็เริ่มรู้สึกตัวและสะดุ้งตื่นขึ้นมา " เฮ้..นี่เจ้าเต่า มันคลานมาจนถึงที่ไหนแล้วนี่?? " มันรีบกวาดสายตามองหา แต่ก็ช้าและสายไปเสียแล้ว เพราะเมื่อมันมองไปที่ตรงจุดเส้นชัยที่อยู่บนยอดเขาโน่น มันก็ได้เห็นว่าเจ้าเต่ากำลังแสดง ความยินดีที่ได้รับชัยชนะอยู่อย่างมีความสุข..อยู่ในขณะนั้นเสียแล้ว Near the rabbit which is sleeping well , the tortoise walked step by step earnestly. After a while, the rabbit woke up at last. "Hee ! Where is the tortoise?" He looked for the tortoise, but he could not find it anywhere. when he noticed and looked at the top of a mountain, the tortoise was showing cheers there.



เพลงเด็ก